Add Your Heading Text Here
“Eggnog” เป็นเครื่องดื่มที่มีรากฐานมาจากยุคกลางในยุโรป ว่ากันว่าต้นกำเนิดมาจากเครื่องดื่มที่มีชื่อว่า “Posset” ซึ่งคิดว่าบางท่านอาจจะคุ้นกับชื่อ Lemon Posset ที่มีหน้าตาชวนน่าถ่ายรูปลง ig ที่เป็นเหมือนครีมตักกินในเปลือกเลมอน ซึ่งสูตรก็จะคล้าย ๆ กัน แค่ไม่ใส่ไข่
เอ้า !! นอกเรื่องอีกแล้ว ไม่มีใครเตือนด้วย เพราะพูดอยู่คนเดียว 5555 วกกลับมาก่อน
แต่เดิมทีเมนู Posset Posset เป็นเครื่องดื่มที่มีชื่อเสียงในอังกฤษยุคกลาง (ประมาณช่วงศตวรรษที่ 13-15) เริ่มต้นจากส่วนผสมง่าย ๆ อย่างนมร้อน น้ำตาล และไวน์หรือเอล (Ale) ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาที่ทำให้นมจับตัวเล็กน้อย (คล้ายโยเกิร์ต) หากแต่ว่าดั้งเดิมของอังกฤษเนี่ย เขาจะสูตรนี้ไม่ได้ใส่ไข่ในช่วงแรก (ก็เหมือนเมนู Lemon Posset ในปัจจุบัน)
อีกทั้ง เดิมทีแล้วเมนู “Posset” ไม่ได้เป็นเมนูสำหรับช่วงคริสต์มาสหรือเทศกาลอะไรนะ เพียงแต่จะถูกใช้เป็นยาในยุคสมัยนั้น โดยเชื่อว่าช่วยบรรเทาอาการหวัดและทำให้ร่างกายอบอุ่น (ก็อุ่นแน่นอนละ นมต้ม + เครื่องเทศ + เหล้า อันนี้ยิ่งอุ่นเลย) มักเสิร์ฟในถ้วยไม้ที่เรียกว่า “Noggin” ซึ่งอาจเป็นที่มาของชื่อ Eggnog ในภายหลัง นั่นเองคร้าบ
สำหรับชาวอังกฤษแล้วเจ้า Posset เนี่ย ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นสูงพอสมควร โดยเริ่มมีการเติมเครื่องเทศราคาแพง เช่น อบเชยและลูกจันทน์เทศ อีกทั้งไข่แดงถูกเพิ่มเข้ามาในสูตรเพื่อเพิ่มความเข้มข้นและหรูหราของเครื่องดื่ม และเจ้า Posset ถ้วยนี้ก็ยังไปปรากฏอยู่ในบทละครของวิลเลียม เชกสเปียร์ เช่น ในบทละคร “Macbeth” อีกด้วยละ
ในช่วงศตวรรษที่ 16 เป็นต้นมาเนี่ย เจ้าเครื่องดื่ม Posset ก็ได้แพร่ขยายไปหลายประเทศในยุโรป
บ้างก็ว่ามันเป็นเมนูพื้นบ้านของหลาย ๆ ประเทศยุโรปอยู่แล้ว เช่น
– Advocaat ในเนเธอร์แลนด์ ที่เขาบอกว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนู Advocaat de Avocat ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ชาวดัตช์ในอาณานิคมแคริบเบียนทำจากอะโวคาโดบดผสมกับเหล้ารัม ในช่วงศตวรรษที่ 17 (แต่ปัจจุบันก็จะคล้ายๆกับ Eggnog เพราะวัตถุดิบมันหาง่ายกว่าในยุโรป)
– Eierlikör ว่ากันว่าเป็นเครื่องดื่มที่ดัดแปลงสูตรจาก Advocaat ในศตวรรษที่ 18 ที่เยอรมนี ส่วนความนิยมของเครื่องดื่มนี้ก็อาจจะคล้าย ๆ กับของอังกฤษคือ มันดูแพง ดูมีฐานะดี
– Zabaglione เมนูนี้มีประวัติยาวนานที่สามารถสืบย้อนกลับไปได้ถึงศตวรรษที่ 15 หรือ 16 ในอิตาลีตอนเหนือ (ก็พอ ๆ กับ Posset เลยเนอะ) โดยเฉพาะในแคว้นแคว้นปีเยมอนเต (Piedmont) โดยชื่อ “Zabaglione” อาจมาจากคำว่า “Zabaja” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มของหวานจากภูมิภาคเวนิสที่ได้รับอิทธิพลจากการค้าขายกับแถบอาหรับ
Add Your Heading Text Here
[ Eggnog จากเครื่องดื่มเหตุการณ์จลาจล จนมาถึงเครื่องดื่มยอดนิยมในช่วงคริสต์มาสของชาวอเมริกัน…เอ้ะ ! ไปถึงนั้นได้ยังไงนะ ? ]
คำตอบใน 1 บรรทัด ก็คือ “จากทหารชาวอังกฤษที่ประจำการอยู่ที่อเมริกา” นั่นเองคร้าบ ง่าย ๆ เลยเนอะ
พอเขียนอะไรเกี่ยวกับอเมริกาก็จะไม่ได้ซับซ้อนมาก เน้นท่าง่ายที่ตามไลฟ์สไตล์ของชาวอเมริกัน
อะแต่เป็นพวกเราเขียน ก็จะขอเล่าเพิ่มเติมอีกนิดนึง
Eggnog มีต้นกำเนิดมาจากเครื่องดื่มที่เรียกว่า “Posset” อย่างที่ทราบกันว่าเป็นสูตรที่ติดมาจากชาวอังกฤษที่อพยพเข้ามาในช่วงศตวรรษที่ 18 แต่ว่าเหตุการณ์ที่สร้างชื่อให้กับเมนูนี้ก็ว่ากันว่ามาจากการจลาจล West Point ในปี ค.ศ. 1826 ที่โรงเรียนนายทหาร West Point ในสหรัฐอเมริกา โดยมีนักเรียนลักลอบนำเหล้ามาผสมเมนู Eggnog เพื่อฉลองคริสต์มาส ความวุ่นวายนี้ลุกลามจนกลายเป็นเหตุการณ์จลาจลที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์…. ฟังดูออกเอาฮา แต่มีจริง ๆ นะ เพื่อน ๆ ลองเสิร์ช “The eggnog riot” หรือ The Grog Mutiny
เหตุการณ์จลาจลที่โรงเรียนทหารเวสต์พอยต์อันนี้ ดันตรงกับวันคริสต์มาสพอดี 25 ธันวาคม เลยทำให้โรงเรียนทหารในอเมริกา ต้องออกกฎห้ามนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามา แต่อย่างไรก็ดี วัยรุ่นเมกันสุดคึกคะนอง…มีเหรอจะทำตาม มันก็เลยเหมือนกลายเป็นธรรมเนียมที่กลุ่มนักเรียนนายร้อยหลายโรงเรียนในอเมริกา ก็จะแอบทำ Eggnog สูตรผสมเหล้าวิสกี้กัน และจะนิยมฉลองในช่วงคริสต์มาส (แน่นอนว่ามันมีพวกเรื่องดราม่าที่พวกครูทหาร ให้นักเรียนแอบทำการซื้อแอลกอฮอล์หรือแนวแบบแลกสิ่งของกัน แบบว่าอย่างที่เราทราบกัน )
อีกจุดที่ทำให้เครื่องดื่มนี้กลายเป็นที่นิยมในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของอเมริกา ก็คือ ชาวอเมริกันในยุคนั้นมีไข่และนมจากฟาร์มในท้องถิ่นในปริมาณมาก ทำให้วัตถุดิบเหล่านี้มีราคาถูก ผสมกับเหล้าวิสกี้ที่ฝั่งอเมริกาก็ขึ้นชื่ออยู่แล้ว จึงทำให้ทำง่าย แล้วชื่อของเมฯู Eggnog ก็ยังไปโผล่ในเพลงป๊อปหลายเพลง หรือภาพยนตร์ฟีลลิ่งกู้ดกลิ่นอายคริสต์มาส เช่น Elf, Home Alone, และ National Lampoon’s Christmas Vacation
.
จะว่าไปแล้วค่านิยมมันก็ไม่ได้อยู่แค่ผู้คนทั่วไปนะ อย่างเช่น อดีตประธานาธิบดีจอร์จ วอชิงตัน ก็ยังชื่นชอบ Eggnog ฉบับผสมเหล้าโดยเขาจะใช้เหล้า รัม บรั่นดี และเชอร์รีไวน์ผสมกัน และถูกใช้ในงานเลี้ยงต้อนรับแขกในทำเนียบขาวอยู่บ่อยครั้ง
ส่วนตัวเรายังไม่มีโอกาสได้ลองชิมเลย จะทำเองก็รู้ว่าน่าจะไม่อร่อย
ต้องไปหาร้านที่เขาทำมาลองชิมสักหน่อย
แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม
– บทความ A Brief History of Eggnog จากนิตยสาร TIME
– บทความ The Origins of Eggnog จากเว็บ thespruceeats
– บทความ Eggnog: It’s All Fun and Games Until Someone Starts a Holiday Riot จากเว็บ smithsonianmag
– บทความ Homemade Eggnog จากเว็บ tastesbetterfromscratch
– บทความ “Eggnog” นมต้มที่ต้องดื่มใน “เทศกาลคริสต์มาส” จากเว็บกรุงเทพธุรกิจ
– บทความ สูตร Eggnog ประจำตระกูล Sühring จากเว็บ guide michelin