ตลาดคริสต์มาส มีต้นกำเนิดมาอย่างไร ?
ตลาดคริสต์มาสเริ่มต้นขึ้นเป็นครั้งแรกในยุคกลาง เพื่อเป็นการเตรียมตัวสำหรับช่วงเทศกาลคริสต์มาส ในช่วงนั้น, ตลาดเหล่านี้มักจะจัดขึ้นในสถานที่กลางเมือง และเป็นที่สำหรับขายอาหารและสินค้าที่จำเป็นสำหรับช่วงฤดูหนาว โดยในช่วงแรกจะใช้ชื่อว่า “Wintermärkte (winter markets)” ในปี ค.ศ. 1298 ซึ่งยังไม่เรียกว่าคริสต์มาสมาร์เกตนะคร้าบ
โดยตลาดหน้าหนาว Wintermärkte ที่มีชื่อเสียงก็อย่างเช่น ตลาดหน้าหนาวเมืองมิวนิก (Munich)ในปี 1310, ตลาดหน้าหนาวเมืองเบาท์เซิน (Bautzen) ในปี 1384 และตลาดหน้าหนาวเมืองแฟรงก์เฟิร์ต (Frankfurt) ในปี 1393
หลังจากนั้นก็มีตลาดหน้าหนาวที่ใช้คอนเซ็ปตของตลาดวันคริสต์มาสอีฟแบบเมือง Dresden อีกมากมาย ถ้าพูดถึงตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่จะก็มีจากเมือง Nuremberg, Munich, Cologne ของประเทศเยอรมนี
จากเยอรมนีก็ค่อย ๆ แพร่ขยายออกไปทั่วทวีปยุโรป เช่น ประเทศออสเตรีย สวิตเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและอังกฤษ
บางทีเราก็นึกสงสัยเหมือนกันนะว่า กลุ่มคนที่เป็นนิกายโปรเตสแตนต์ เค้าจะมีการจัดตลาดเฉลิมฉลองกันไหม… ซึ่งเค้าก็มีนะคร้าบบ แต่จะเป็นในลักษณะของการมอบของขวัญให้กันและกัน โดยมีความเชื่อว่าเหล่าเทวดาจะมามอบของขวัญให้ (Spirit of Christmas, holy angel ไปแทน)
ในปัจจุบัน เราก็จะพบเห็นตลาดคริสต์มาสตามเมืองต่าง ๆ ไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ที่ยุโรป ซึ่งแต่ละที่จะมีลักษณะเฉพาะตัว โดยอิงจากประเพณีและวัฒนธรรมของพื้นที่นั้นๆ
ตลาดคริสต์มาสไม่ได้เป็นเพียงแต่เป็นสถานที่หรือสัญลักษณ์เฉพาะกลุ่ม แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรม, การรวมตัวของชุมชน, การแสดงดนตรี, การแสดงศิลปะ, และกิจกรรมต่างๆ สำหรับทุกคนเลยก็ว่าได้
ตลาดคริสต์มาสแห่งกรุงเวียนนา (Vienna Christmas Market) 🇦🇹
1. พระราชวังฤดู Belvedere Palace
พระราชวังเบลวีเดียร์ (Belvedere Palace)
พระราชวังเบลวีเดียร์ (Belvedere Palace) ที่กรุงเวียนนาแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ภายใต้คำสั่งของเจ้าชายยูจีน ออฟ ซาวอย (Prince Eugene of Savoy) พระราชวังมีสองส่วนหลัก คือ พระราชวังสูง (Upper Belvedere) และพระราชวังต่ำ (Lower Belvedere) พร้อมกับสวนที่สวยงามระหว่างสองพระราชวัง สถาปัตยกรรมของพระราชวังเบลวีเดียร์เป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสไตล์บาโรค (Baroque)
พระราชวังแห่งนี้มีความสำคัญคือ เป็นสถานที่แห่งการทำ”สนธิสัญญาเบลวีเดียร์” ในปี 1955 ซึ่งทำให้ออสเตรียเป็นประเทศที่เป็นกลางและมีอิสระจากกองทัพพันธมิตรหลังสงครามโลกครั้งที่สอง
สำหรับตลาดคริสต์มาสที่พระราชวังแห่งนี้ เค้าจัดขึ้นในบริเวณด้านหน้าของพระราชวังเลย
2. Rathausplatz
Rathausplatz เป็นศาลว่าประจำเมืองเมือง เป็นที่ทำการของนายกเทศมนตรีเวียนนาและเป็นสภาของเมือง
ถ้าพูดถึงตลาดคริสต์มาสในกรุงเวียนนาแล้วละก็ ที่ Rathausplatzแห่งนี้ อาจถือว่ามีชื่อเสียงสำหรับตลาดคริสต์มาส (Christkindlmarkt) ที่จัดขึ้นทุกปีในช่วงเทศกาล ตลาดนี้เป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเวียนนา
บรรยากาศคริสต์มาสที่เมืองลินซ์ (Linz)
อันนี้ขอแถมบรรยากาศตลาดคริสต์มาสแห่งหนึ่งที่เมือง Linz คือเราไปเดินสุ่ม ๆ มาแล้วเจอ สวยงามมาก ด้วยความที่ว่ามันเป็นหิมะจริง ๆ เนี่ยเลยสร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เลย
ตลาดคริสต์มาสที่เมือง Salzburg 🇦🇹
คราวนี้ไม่พลาดไปช่วงประมาณ 18.00 เวลาที่คนกำลังเยอะพอดี ส่วนตัวเรารู้สึกว่าค่อนข้างใหญ่เลยละ
ตลาดคริสต์มาสแห่งเมือง Strasbourg
ดูเหมือนว่าตลาดแห่งนี้จะเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของการเที่ยวตลาดคริสต์มาสจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะตลาดแห่งนี้ได้รับฉายาว่า “ตลาดคริสต์มาสที่สวยที่สุดในโลก !”
ตลาดคริสต์มาสในสตราสบูร์ก มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและเป็นหนึ่งในตลาดคริสต์มาสที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป มีรากฐานมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1570 ซึ่งในขณะนั้นเรียกว่า “Christkindelsmärik” โดยตั้งแต่ในอดีต ตลาดแห่งนี้ไม่เคยปรับเปลี่ยนอะไรไปจากเดิมมากเท่าไร คือเค้าจัดกันกลางเมือง ตามตรอกซอกซอย และมีตลาดย่อยถ้านับอายุก็ราว ๆ 470 ปี เห็นจะได้เลยทีเดียว
อีกทั้งเมืองนี้ยังได้รับฉายาว่า “Capitale de Noël ” อีกด้วยนะ
แวะชมตลาดคริสต์มาสแห่งหมู่บ้าน Colmar ในวันฟ้าหม่น
เมืองคอลมาร์ (Colmar) ตั้งอยู่ในภูมิภาคอัลซาส ทางตะวันออกของฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งในเมืองที่มีเสน่ห์และสวยงามที่สุดในยุโรป
ด้วยความที่หมู่บ้านแห่งนี้มีสถาปัตยกรรมแบบ Half timbered Half-timbered house แบบเยอรมัน คือ เป็นบ้านที่ก่อสร้างในแบบโบราณตั้งแต่ในสมัยยุโรปยุคกลางโครงสร้างของบ้านและคานเป็นไม้เนื้อแข็งเช่นไม้สัก จึงทำให้บรรยากาศของตลาดคริสต์มาสค่อนข้างดูแปลกตาไปจากที่อื่น ๆ ในฝรั่งเศส
แต่ก็ไม่แปลกใจนะ เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ก็เคยเป็นของเยอรมนีมาก่อน
ตลาดคริสต์มาสใจกลางกรุงปารีส Jardin des Tuileries 🇫🇷
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดคริต์มาสที่ใหญ่ที่สุดในกรุงปารีส แต่ตลาดแห่งนี้กลับมีผู้คนที่อาจพลุกพล่านมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะต้องอยู่ใจกลางกรุงปารีส ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ลูฟร์เลย
แอบเสียดายเหมือนกันที่รอบนี้มาเ็บในแค่แห่งเดียวเอง จากตอนแรกที่ตั้งเป้าเอาไว้สัก 2-3 แห่ง ในตอนหัวค่ำที่เราแวะไปที่ Hotel de Ville เอง ก็ค่อนข้างดึกเกินไป 21.00 เค้าปิดไฟตรงต้นคริสต์มาสหน้าศาลาพอดี ไว้อย่างไรถ้ามีโอกาสในครั้งหน้าพวกเราจะขอไปเก็บมาให้ครบทั้งหมดในกรุงปารีส แล้วจะมาแชร์ให้เพื่อน ๆ อ่านกันอีกนะคร้าบ
ขอบพระคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตรงนี้ พวกเรา InfoStory ขออนุญาต Merry Christmas 2024 ตรงนี้นะคร้าบบ ! 🥰🙏🎄
